วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ข้อกำหนด 7 ประการของผู้พึ่งพิงในคอนโด

ข้อบัญญัติ 7 ชนิดของชาวคอนโด

        หลากหลายคนอาจจักคิดว่า การอยู่คอนโดนั้นเป็นอิสระ ส่วนตัวดี ห้องใครห้องมัน ปิดประตูใส่สลักประตูล็อคกุญแจ รูดผ้าม่านบัญชรปิดมิด กันสายตาที่สอดรู้สอดเห็น ที่นี้คุณจักทำอะไรก็ได้ จะหกคะเมนตีลังกาใส่ผ้าไม่ก็ถอดผ้า แต่อาจจะมีบางคนไม่รู้เลยว่า ถ้าต่างว่าอยู่บ้านเดี่ยวเหรอทาวน์เฮ้าส์ แล้วค้างค่าน้ำค่าไฟ ก็จะถูกตัดน้ำตัดไฟ หรือว่าโทรศัพท์ก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าคุณสึงคอนโดมิเนียมอาจจักหนักกว่านี้ คือไม่แค่ถูกตัดน้ำตัดไฟ อาจจะถูกล็อคห้องไม่ให้คุณนั้นเข้าไปใช้ประโยชนอีกด้วย พร้อมด้วยนี่เป็นเรื่องจริงๆ ที่ทางนิติบุคคลเรือนชุด ได้มีอำนาจตามกฎหมายที่จักทำ พร้อมทั้งเป็นเพียงการเริ่มต้นต้นเท่านั้น แล้วถ้าถ้าถึงที่สุดแล้ว ทางนิติบุคคลอาคารชุดจะเข้ามายึดทรัพย์สมบัติในห้องชุดไปขายหรือไม่กระทั่งการขู่เข็ญขายห้องชุดห้องใดห้องหนึ่งเพื่อชะล้างหนี้ยังอยู่ในขอบข่ายอำนาจทางข้อบัญญัติที่นิติบุคคลอาคารชุดมีสิทธิทำได้อีกด้วย โอ้โห!ไหงเป็นอย่างงั้นได้

        คุณต้องสถิตศึกษาข้อนิติบ้าง มาดู ก่อนอื่นพึงรู้ว่า การอยู่อาศัยในอาคารห้องชุดใช่ไหมคอนโดมิเนียมนั้น มีกฎหมายหลักที่ข้องแวะ คือ พระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 กฎหมายนี้ได้กำหนดเรื่องราวของนิติบุคคลอาคารชุดไว้รอบด้านเลยทีเดียว

  • การเป็นเจ้าของร่วมกัน
  • ความรับผิดชอบร่วมกัน
  • การสั่งการจัดการ
  • อำนาจกับบทบาทของผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด
  • ระเบียบมูลฐานที่คนคอนโดฯ ต้องทำตาม
  • อำนาจขู่เข็ญชำระหนี้
  • คนดำรงอยู่คอนโดฯ ใจต้องโตกว่าตึก


ชีวิตของคนคอนโด ต้อง โตแล้ว ซึ่งความหมาย ตกว่า ต้องเก่งบีบบังคับใจของตนเองให้อยู่ในกฎกฎ เพื่อสาธารณะเป็นเบื้องต้น และให้ความร่วมแรงกายกับส่วนรวม เพื่อกล่อมชักชวนเพื่อนฝูงร่วมคอนโดฯเดียวกันให้ปฏิบัติเพื่อส่วนรวม อันหมายถึง การปฏิบัติทำตามข้อกำหนดของอาคารชุดอย่างครบถ้วน

ประโยชน์ที่ได้รับคือ ความผาสำราญของชาวคอนโด พร้อมกับความเจริญของตัวอาคาร ด้วยกันสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ภายในโครงการที่เป็นทรัพย์สินส่วนกลางหรือไม่สมบัติร่วมกัน ควรระลึกถึงก่อนพร้อมทั้งหลังเข้าไปธำรงคอนโดก็คือ อยู่ตึกคอนโดฯ ใจต้องโตกว่าตึก

ข้อกำหนด 7 ประการของชาวคอนโด

จุดเริ่มต้นต้นก็คือ
        การที่เข้ามาเป็นเจ้าของร่วมกัน นั่นเป็นผู้คงอยู่ได้พักพิงภายในคอนโด นอกจากเป็นเจ้าของห้องชุดที่ซื้อแล้ว ยังจักเป็นเจ้าของร่วมในโภคทรัพย์ส่วนกลางต่าง ๆ อีกด้วย

มาตรา 14 กรรมสิทธิ์ส่วนที่เป็นเจ้าของร่วมกันในพิตรส่วนกลาง ให้เป็นไปตามอัตราส่วนระหว่างสนนราคาของห้องชุดกับสนนราคารวมของห้องชุดทั้งหมดนั้นในขณะที่ขอจดทะเบียนอาคารชุด

อันดับที่ 2
        ความรับผิดชอบ การเป็นเจ้าของมักจะมาควบคู่กับความรับผิดชอบเสมอ ไม่ว่าจะเป็นห้องชุดไม่ก็การถือสิทธิ์การเป็นเจ้าของ ผู้หญิงของผม หรือ ผู้ชายของฉัน กฎหมายนี้กำหนดให้มีสิทธิ์เป็นเจ้าของร่วมกันในทรัพย์ส่วนกลาง พร้อมทั้งก็กำหนดความรับผิดชอบมาพร้อมกัน

มาตรา 18 เจ้าของร่วมก็ต้องด้วยกันออกค่าใช้จ่าย ที่เกิดจากการบริการส่วนรวม กับที่เกิดจากเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีไว้เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันตามส่วนของการใช้ผลดีที่มีต่อห้องชุด ทั้งนี้ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับข้างต้น เจ้าของร่วมก็ต้องร่วมกันออกค่าภาษีอากร กับค่าใช้สอยที่เกิดจากการดูแลพร้อมกับดำเนินการที่เกี่ยวกับธนสารสมบัติส่วนกลางตามอัตราส่วนที่เจ้าของร่วมแต่ละคนได้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ส่วนกลางตามมาตรา14

อันดับที่ 3
        การบริหารพร้อมกับจัดการ ในทางทำนั้นย่อมไม่ได้เรื่อง ถ้าให้ผู้ซื้อห้องชุดต้องมาบริหารจัดการในเรื่องต่างๆ ตามมาตรา 18 เอง ดังนั้นจึงต้องให้นิติบุคคลมาจัดการในเรื่องต่างๆนั้น พร้อมทั้งต้องให้อำนาจตามที่ควรจักเป็น อาทิ

มาตรา 33 นิติบุคคลอาคารชุดที่ได้มีการจดทะเบียนตามมาตรา 31 ให้มีฐานะสิทธิเป็นนิติบุคคล นิติบุคคลอาคารชุดจักมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการ พร้อมกับดูแลรักษาทรัพย์ส่วนกลาง และให้มีอำนาจกระทำสิ่งใด ๆ เพื่อเป็นผลดีตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว ทั้งนี้แล้วตามมติของเจ้าของร่วมภายใต้การบังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้

อันดับที่ 4
        อำนาจพร้อมด้วยบทบาทหน้าที่ของผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลอาคารชุดจะต้องมีคนบริหารจัดการ เรียกว่า ผู้จัดการ ผู้จัดการคนนี้มีอำนาจมากทีเดียวล่ะ

มาตรา 35 ให้นิติบุคคลอาคารชุด มีผู้บัญชาคนหนึ่ง ซึ่งจะเป็นบุคคลธรรมดา เจ้าของอาคารหรือนิติบุคคลก็ได้ ในกรณีที่นิติบุคคลเป็นผู้จัดการ ให้นิติบุคคลนั้นแต่งตั้งบุคคลธรรมดาคนหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการ สนองนิติบุคคลในฐานะผู้จัดการ

มาตรา 36 ผู้บัญชามีอำนาจหน้าที่ดังถัดไปนี้

(1) ปฏิบัติการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในมาตรา 33 ใช่ไหม มติของที่ประชุมเจ้าของร่วม เหรอคณะกรรมการนั้นตามมาตรา 37 ทั้งนี้ โดยไม่ขัดต่อข้อบังคับ
(2) ในกรณีจำเป็นกับเร่งด่วน ให้ผู้จัดการที่มีอำนาจ เพราะว่าความริเกริ่นของตนเองจัดการในกิจการ เพื่อความปลอดภัยของตัวอาคาร ดังเช่นวิญญูชนจะพึงรักษาและจัดการทรัพย์สินของตนเอง
(3) เป็นผู้แทนของนิติบุคคลอาคารชุด
(4) หน้าที่อื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ผู้ว่าการต้องปฏิบัติกิจการในหน้าที่ด้วยตนเอง เว้นแต่กิจการ ซึ่งตามข้อบังคับเหรอมติของที่ประชุมเจ้าของร่วมตามมาตรา 48 (3) กำหนดให้ยกให้หมายให้ผู้อื่นทำ แทนได้

อันดับที่ 5
        ระเบียบขั้นพื้นฐานที่คนคอนโด ต้องทำตาม รักจักอยู่อาคารชุดก็ต้องเคารพระเบียบกฎเกณฑ์ของอาคารชุด ซึ่งมีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย ตั้งแต่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. อาคารชุด หรือว่าอยู่ในระเบียบนิติบุคคลอาคารชุด อาทิเช่น

มาตรา 40 ให้เจ้าของร่วมชำระเงินให้แก่นิติบุคคลอาคารชุดเพื่อไปกิจการของนิติบุคคลอาคารชุด ดังถัดนี้ (1) เงินค่าใช้จ่ายของนิติบุคคลอาคารชุดที่เจ้าของแต่ละห้องชุดจะต้องไขปัญหาล่วงหน้า (2) เงินทุนตราบใดเริ่มต้นต้นกระทำกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อบังคับ หรือไม่ก็ตามมติของที่ประชุมใหญ่ (3) เงินอื่นเพื่อปฏิบัติตามมติของที่ประชุมใหญ่ ภายใต้เงื่อนไขซึ่งที่ประชุมใหญ่กำหนด

อันดับที่ 6
        อำนาจขืนใจชำระหนี้ เพื่อป้องกันและแก้ไขการไม่ให้ความร่วมมือในการออกค่าใช้จ่ายเพื่อดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนกลาง กฎหมายอาคารชุดได้ให้อำนาจนิติบุคคลอาคารชุดไว้แล้ว และอย่าลืมว่า ผู้จัดการฯ มักจักเป็นผู้ใช้อำนาจนั้น

มาตรา 41 เพื่อผลกำไรในการบังคับชำระหนี้อันเกิดจากค่าใช้จ่ายตามมาตรา 18 ให้นิติบุคคลอาคาร ชุดมีบุริมสิทธิ ดังนี้
(1) บุริมสิทธิเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายตามมาตรา 18 วรรคหนึ่ง ให้ถือว่าเป็นบุริมสิทธิในลำดับเดียวกับ บุริมสิทธิตามมาตรา 259 (1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งพร้อมด้วยพาณิชย์พร้อมกับมีอยู่เหนือสังหาริมทรัพย์ที่เจ้าของห้องชุดนั้นนำมาไว้ในห้องชุดของตน
(2) บุริมสิทธิเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายตามมาตรา 18 วรรคสอง ให้ถือว่าเป็นบุริมสิทธิในลำดับเดียวกับ บุริมสิทธิตามมาตรา 273 (1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งพร้อมด้วยพาณิชย์ และมีอยู่เหนือทรัพย์สินส่วนบุคคล ของแต่ละเจ้าของห้องชุด บุริมสิทธิตาม (2) ถ้าผู้จัดการได้ส่งรายการหนี้ต่อบุคลากรเจ้าหน้าที่แล้วให้ถือว่าอยู่ในลำดับก่อน จำนอง

งอกงามความให้ชัดเจนก็คือนิติบุคคลอาคารชุดมีกรรมสิทธิ์ในสมบัติต่าง ๆ ในห้องชุดเหนือกว่าเจ้าของห้องชุดแต่ละห้องด้วยซ้ำ พร้อมทั้งเหนือกว่าเจ้าหนี้ทุกราย  อำนาจเช่นนี้แหละ ที่เอื้อให้นิติบุคคลอาคารชุดในทางวางตนก็คือ ผู้จัดการอาคารชุดเชี่ยวชาญ บังคับ เจ้าของอาคารชุด ให้รับผิดชอบภาระหน้าที่ของตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินค่าบำรุงส่วนกลาง การจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์กับอื่น ๆ ทั้งนี้โดยมีคณะกรรมการควบควบคุมการจัดการนิติบุคคลอาคารชุดดูแล เพราะมีการประชุมใหญ่ หรือประชุมเจ้าของร่วมทั้งหมดหนุนหลังในขั้นสุดท้าย กับเมื่อพิจารณาลักษณะการประชุมใหญ่แล้ว ก็ทำเป็นสนับสนุนการ บังคับ ต่าง ๆ ได้

อันดับที่ 7
        คนเข้าอยู่คอนโดใจต้องโตกว่าตึก ว่าไปแล้วปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมสูงระฟ้า พร้อมด้วยการแก้ไขปัญหาไม่ใช่อยู่ที่นิติบุคคลอาคารชุด พร้อมทั้งผู้จัดการอาคารชุดมีอำนาจตามกฎหมายหรือไม่ก็ไม่ แต่อยู่ที่มีศักยภาพทำให้อำนาจนั้นมีผลบังคับใช่ไหมไม่ เหรอว่าไปแล้วปัญหาอยู่ที่ ผู้คนที่อาศัยในอาคารชุดใหญ่โตโอฬาริกนั้น มีวุฒิภาวะมากพอหรือไม่ก็โตพอแล้วหรือยัง ความผาสุขของชุมชนระฟ้าจะสมบูรณ์สวยงาม หรือไม่ก็ขาดวิ่นเว้าแหว่งก็ขึ้นอยู่กับคนในคอนโด เองว่าจะทำตาม บัญญัติ 7 ประการ นี้เหรอไม่ ทั้งนี้มี ใจที่โตพอ รับผิดชอบพร้อมทั้งบริจาคพอเป็นแกนกลาง

ไล่ตามข่าวสารของคอนโด โครงการคอนโดใหม่
ได้ ขอบคุณข้อมูลดีที่เอามาแชร์ จาก : cmc.co.th
ที่มา : propertytothai

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เคล็ดแนะก่อนซื้อบ้าน - คอนโดหลังแรก

 ข้อแนะ ก่อนซื้อบ้าน คอนโดหลังแรก

              ข้อมูลบางส่วนของไมเคิล ไอเซนเบิร์ก ผู้เก่งด้านการเงินส่วนปุถุชน จากเว็บไซต์ฟิเดลิตี้ ทุนเดิมใหญ่อันดับหนึ่งของสหรัฐ ในหัวเรื่อง กลยุทธ์นำทางนำผู้บริโภคจ่ายบ้านหลังแรก เพื่อช่วยให้คนไทยที่หมายซื้ออสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านไม่ใช่หรือคอนโดมิเนียมหลังแรกเพื่อไว้เป็นของตนเอง เพราะว่าแผ่นจดหมายนี้ไอเซนเบิร์กนั้น ยังมีคำเสนอแนะอีกซีกหนึ่งที่เหเล่าลือ มาฝากให้กับคนไทยทั้งในด้วยกันต่างประเทศได้นำข้อมูลของเขา ไว้ไปประยุกต์ใช้ได้ เพื่อตั้งข้อสังเกตให้คำนึงฉุกคิด พร้อมด้วยผู้ที่เริ่มทำต้นจากพื้นฐานไม่มีความแน่ใจเลย หรือไม่ไม่รู้อะไรเลย พร้อมกับต้องใคร่ครวญทัศนาให้ดีก่อนที่จะตกลงใจซื้อบ้าน

1. ต้องมีเงินออมเผื่อฉุกเฉิน เป็นอีกไอเดียหนึ่งที่เตือนใจก่อนให้ความเห็นในชะง่อนบวกของไอเซนเบิร์กที่ว่า ต่างว่าคุณมีเงินสดอยู่ในมือพางพอแล้ว ที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพนาน 3-6 เดือน นั่นเป็นการที่ได้ก้าวเข้าใปใกล้สถานภาพเตรียมตัวเป็นเจ้าของบ้านไม่ใช่หรือคอนโดได้แล้ว แต่ไอเซนเบิร์ก ก็ขอให้ผู้บริโภคคนไทย นึกถึงเรื่องบางอย่างที่ไม่ดี ที่จักทำให้รายได้ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องนั้น เกิดสะดุดติดขัด เช่น กรณีบาดเจ็บป่วยรุนแรง การปล่อยพนักงาน ไม่ใช่หรือแม้แต่เสียหายภัย ซึ่งเป็นเหตุไม่คาดฝัน ทำให้คุณไม่เก่งทำงานพร้อมด้วยหารายได้ตามนิจสิน คุณต้องแน่ใจก่อนว่านะว่ายังมีเงินรองรัง ช่วยให้การชำระหนี้เพื่อที่อยู่อาศัยไม่สะดุด พร้อมทั้งทำเป็นสร้างผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากไปได้

2. อาจจักควบกำกับหนี้ไม่ให้บานปลายได้ บรรดาสถาบันการเงินต่างๆ ที่เป็นเจ้าหนี้ ปล่อยวางกู้ทุกวันนี้ เครือข่ายมีระบบที่สร้างความมั่นใจได้ว่า ลูกหนี้หรือไม่ผู้ซื้อบ้านต้องการเงินกู้ มีเงินเท่าพอแต่ละเดือนเพื่อล้างหนี้ ดังนั้น ก่อนที่ทั้งสิ้นธนาคารใช่ไหมสถาบันการเงินอู่อื่นเป็นเจ้าหนี้อนุมัติสินเชื่อให้ ลูกหนี้ ต้องพิจารณาสัดส่วนหนี้ต่อเงินรายได้ของผู้กู้เสียก่อน แต่เพราะว่าทั่วไปแล้ว ไอเซนเบิร์กต้องการให้ลูกหนี้นั้น ประเมินตัวเองเสียก่อน ด้วยว่าให้แน่ใจได้ว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเฉพาะบ้านไม่ก็คอนโด ซึ่งรวมถึงเงินโอน ดอกเบี้ยกับภาษีอีกทั้งเงินประกันภัย สมมุติรวมแล้วต้องไม่มากเกินกว่า 33% ของเงินรายได้รวมในแต่ละเดือน ขณะที่พันธะหนี้ที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือน ซึ่งหนี้อย่างนี้รวมถึงหนี้ที่ต้องผ่อนบ้าน หนี้บัตรเครดิต หนี้เพื่อการศึกษา กับหนี้ต้องผ่อนปรับปรุงค่ารถยนต์ ต้องต่ำกว่า 38% ของค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ดังนั้นเป็นไอเดียที่ดีกว่า สมมติว่าผู้คิดจะซื้อบ้าน ซึ่งเดิมมีหนี้ก้อนใหญ่จะพากเพียรลดมูลหนี้ให้น้อยลง ก่อนตกลงใจขอสินเชื่อเพื่ออสังหาริมทรัพย์ พร้อมกับต้องปักใจก่อนว่าตัวเองมีคุณสมบัติแค่พอที่จักขอเงินกู้ได้มากตามความ จำเป็น

3. แน่ใจได้หรือว่ายังประวัติเครดิตขอสินเชื่อไม่มีปัญหา ในต่างประเทศ ณ เวลานี้ ผู้ขอกู้ซื้อที่อยู่อาศัย ไม่จำเป็นจักต้องมีประวัติส่วนตัวการขอสินเชื่อที่ดี 100% เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับอนุมัติเงินกู้ซื้อบ้าน แต่แค่มีประวัติบุคคลการเงินพอใช้ไม่ใช่หรือสร้างผ่านได้ก็เป็นได้ช่วยให้ผู้ขอกู้ ได้ดอกเบี้ยที่ต้องผ่อนค่าชำระลดลง พร้อมทั้งจำนวนเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือน ผ่อนได้น้อยลงด้วย ในประเทศสหรัฐ คนไทยที่พักอยู่ ก็ได้รับการช่วยเหลือจากทางภาครัฐ ให้ตรวจสอบชีวประวัติทางการเงินของตัวเองได้ทุกปีจากเว็บไซต์ annualcreditreport.com โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิน เพราะข้อมูลที่เข้าไปตรวจสอบเป็นข้อมูลที่ได้จากเครดิตบูโรสำคัญ 3 แห่ง ดังนั้น ผู้บริโภคที่หมายจักขอกู้เงินซื้อที่อยู่อาศัยนั้น ก็ทำเป็นเข้าไปดูข้อมูลซึ่งบรรดาสถาบันทางการเงิน ก็ใช้เป็นข้อมูลในการตรวจสอบเช่นกัน ก่อนที่จักตัดสินใจให้เงินกู้ คำแนะนำนำในข้อนี้จักช่วยให้ผู้ขอกู้ เพิ่มความระมัดระวังในการขอสินเชื่อของตัวเอง ซึ่งอาจมีผลต่อให้ การตัดสินใจของผู้ให้กู้ได้

4. ซื้อที่อยู่อาศัยควรถือเป็นเจ้าของสิทธิไว้ให้นานที่สุด ข้อนี้เป็นการปรามใจให้ผู้คิดที่จะซื้อบ้านหรือว่าคอนโดว่า พร้อมหรือไม่ทำใจยังว่าการมีบ้านไม่ก็คอนโดเป็นของตัวเอง ควรจักอยู่ให้นานอย่างน้อย 3-5 ปีได้หรือว่าไม่ และต้องคำนึงถึงยุคสมัยเวลาด้วยว่า จะทำที่พักอาศัยให้เรียบร้อยลงตัว ก่อนที่คิดจักทำธุรกรรมขายต่อได้หรือไม่ไม่ เพราะถ้าขายก่อนยุคสมัยอันสมควร ผู้ซื้ออาจจักขาดทุนทรัพย์จากธุรกรรมได้ ในต่างประเทศอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา สมมตผู้ซื้อคิดหาทำดอกผลกลับคืนจากการซื้อที่อยู่อาศัย เจ้าของบ้านนั้นจะต้องจ่ายภาษีจากกำไรที่ขายได้ แต่สมมติว่าพักอาศัยอยู่ในบ้านไม่ถึง 2 ปี ระยะเวลาในการพักอาศัยจึงสำคัญมาก ด้วยกันถ้าคิดว่าตัวเองไม่เป็นได้พักอาศัยได้นาน ผู้ซื้ออาจจะคิดอีกลู่หนึ่งคือจ่ายเพื่อธุรกิจให้เช่าจะดีกว่า

5. ฉลาดจัดเตรียมตัวที่จักเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ไอเซนเบิร์กได้พูดเตือนว่า แม้คุณนั้นสมรรถซื้อหรือว่าเป็นเจ้าของที่พักพึ่งพาอาศัยได้ แต่อย่าตัดสินใจง่ายๆ เท่าเพราะว่ามีแค่ศักยภาพการเงินที่จักซื้อ แต่ขอให้แน่ใจก่อนว่าพร้อมที่จะใช้ชีวิต พร้อมทั้งรอบรู้ดูแลรักษาบำรุงสถานที่อยู่อาศัยได้ตามความจำเป็นพร้อมกับเหมาะสม ในคราวการเป็นเจ้าของที่พักอาศัย ถ้าหากเกิดชำรุดเสียหาย ผู้ซื้อไม่ก็เจ้าของต้องเป็นคนจัดการ พร้อมด้วยต้องจ่ายเงินให้ช่างซ่อมแซมแทน เว้นแต่นี้เจ้าของไม่ใช่หรือผู้ซื้อ ยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายการดูแลบ้านเป็นประจำอีกด้วย ซึ่งรวมถึงงานถนอมกล่อมเกลี้ยงรักษาบ้านหลังเล็กๆ ของคุณ ในกรณีที่คุณซื้อที่พักอิงในต่างประเทศ ขอให้นึกถึงเบื้องหน้าหลังการซื้อว่า มีเวลากับพลังและความมุ่งมั่นที่จะดูแลอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองอย่างแน่นอนจังหรือไม่ไม่

6. คุ้ยหาข้อมูลเพิ่มเติม คือคำแนะนำในที่สุดที่ไอเซนเบิร์กหิวให้คนไทยในสหรัฐ เข้าไปทดสอบหาข่าวคราวเพิ่มเติมได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จากเว็บไซต์  360financialliteracy.org ของ American Institute of Certified Public Accountants' หรือไม่ก็ เอไอซีพีเอ เพราะว่าคุณเป็นได้เข้าไปในเว็บไซต์ข้างต้น เพื่อดูประเด็นด้วยกันหัวข้อเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลของคุณ เพื่อหาข้อมูลเหรอทางเฟุ้งเฟื่องก ที่จะช่วยจัดการจัดการทางการเงินของตัวเองได้ ด้วยว่าเวบไซต์ของเอไอซีพีเอนั้นรวบรวมบทความ วิธีการคำน  วณ พร้อมด้วยเครื่องมืออื่นๆ ที่ช่วยให้คนไทยในสหรัฐกับในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก รอบคอบพร้อมทั้งระวังทุกๆ ด้าน ก่อนตัดสินใจควักเงินซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรกในชีวิตของตัวเอง


ขอบคุณ : cmc.co.th
บทความจาก : thaihomemasterm
โดย ดร.ศุภวิศวร์ ปัญญาสกุลวงศ์ พร้อมทั้ง คุณกฤษณ์ แย้มสระโส

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ประกาศการกู้ซื้อบ้าน / คอนโดของแบงค์

วงเบี้ยกู้ของธนาคารนั้นที่แต่ละคนจะได้รับขึ้นอยู่กับวัตถุปัจจัย อะไรบ้าง


คนที่ทำธุรกิจส่วนใหญ่ มักจะคุ้นเคยกับคำว่า วงเงินกู้ (Loan) เป็นอย่างดี ซึ่งการที่จะกู้เงินจากแบงค์ได้นั้นธุรกิจจักต้องมีจุดประสงค์ที่ถนัดตา อีกทั้งต้องบังคับว่า วงเงินที่ต้องการใช้ ช่วงจ่ายชำระคืน พร้อมทั้งที่สำคัญคือต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันวงเงินกู้ให้กับธนาคาร เช่น ที่ดิน อาคาร เครื่องจักร เป็นต้น ข่าวสารวงเงินกู้ของแบงก์ วงเงินนั้นที่แต่ละคนจะได้รับจะขึ้นอยู่กับหลายสิ่งของ เพราะว่าเป็นได้แบ่งออกได้ดังนี้

1. อัตราเงินเดือนด้วยกันภาระหนี้สิน ค่าเพราะคร่าวๆจักได้ 50 เท่าของเงินเดือน เช่น ถ้าเงินเดือน 20,000 พร้อมกับไม่มีภาระหนี้สินใดๆ วงเงินกู้ที่ได้่จักกะ 1,000,000 (20,000 x 50 เท่า) แต่ถ้าคุณมีผ่อนอะไรอยู่ก็จักหักจากค่าจ้างก่อนแล้วค่อยคูณด้วย 50

บางคนที่มีเงินโอทีหรือว่าเงินเงินได้พิเศษนอกเหนือไปจากเงินเดือนประจำ บางธนาคารก็ไม่เอามาคิด บางแบงก์ก็เอามาคิดแค่ 50% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกฎและนโยบายของแต่ละธนาคาร ซึ่งคนกู้จะต้องเช็คกับทางธนาคารอีกที

ผลรวมวงเงินกู้ อาจได้มากไม่ใช่หรือน้อยกว่า 50 เท่า ขึ้นอยู่กับเครดิตของผู้กู้ ความมั่นคงของภาระหน้าที่การงาน พร้อมกับพระราชประวัติการชำระหนี้อื่นๆ ก่อนหน้านี้ ส่วนผู้กู้ที่ทำงานบริษัทที่มีสวัสดิการกู้ซื้อบ้านกับทางธนาคาร ธนาคารมัก ปล่อยวางกู้ง่ายพร้อมด้วยให้ส่วนแบ่งวงเงินมากกว่าปกติ

2. ราคาประเมินบ้านหรือว่าคอนโดมิเนียมของทางธนาคาร ราคาประเมินที่กล่าวถึง ทางธนาคารจักส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจบ้านที่เราจักซื้อพร้อมกับประเมินราคา พวกบ้านไม่ใช่หรือคอนโดใหม่ บางแบงค์ให้กู้เต็มค่าประเมิน ส่วนพวกประกาศขายบ้าน / คอนโดมือสอง บางแบงค์ก็ให้กู้เต็ม แต่ส่วนมากมักให้แค่ 80% ของสนนราคาประเมินธนาคาร อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละแบงค์ที่มีอยู่ ทั้งนี้ถ้าได้มูลค่าประเมินบ้านสูงกว่าฐานของเงินเดือนตามข้อที่ 1 คุณก็กู้ได้สูงสุดตามข้อ 1 พร้อมด้วยถ้าสนนราคาประเมินบ้านต่ำกว่าวงเงินตามฐานค่าจ้างรายเดือนในข้อที่ 1 คุณก็กู้ได้สูงสุดตามค่าประเมินบ้าน

3. อายุของผู้กู้ แบงค์ส่วนมากให้ผู้กู้อาจชำระหนี้ได้จนถึงอายุ 60 บางแบงก์อาจถึง 65 ดังนั้นถ้าคุณอายุโข จำนวนปีในการจ่ายหนี้จักน้อย ซึ่งก็หมายความว่าค่ายินยอมชำระหนี้ในแต่ละเดือนนั้นจักสูง เช่น อายุ 55 ขอกู้เงิน 3,000,000 ซึ่งคุณจะศักยผ่อนได้แค่ห้าปี ดังนั้นปริมาณเงินผ่อนแต่ละเดือนจักสูงมาก ซึ่งเพราะว่าทั่วไปแล้วธนาคารจักให้ผ่อนได้ไม่เกินเกือบๆ 40% ของเงินเดือน ถ้าสมมติว่าเกิน ธนาคารก็จักลดวงเงินกู้คุณลง

ผู้กู้เก่งกู้เพิ่มเป็นค่าอลงกตได้อีกเกือบๆ 10% ของวงเงินกู้บ้านที่ทางธนาคารอนุมัติให้ เช่นถ้าแบงค์อนุมัติวงเงินกู้ยืมซื้อบ้านให้คุณที่หนึ่งล้านบาท คุณศักยกู้เพื่อตกแต่งเพิ่มได้อีกจำนวนหนึ่งแสนบาท แต่ตำแหน่งดอกเบี้ยเพราะเงินกู้ตกแต่งจักสูงกว่าเงินกู้ซื้อบ้าน

กฎเกณฑ์ดังกล่าวนั้นไม่ได้ตายตัว ธนาคารแต่ละแห่งก็จะมีข้อดูที่แตกต่างกัน ที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงแนวทางคร่าวๆ ทั้งนี้ผู้กู้จงติดต่อถามเจ้าหน้าที่สินเชื่อของแต่ละธนาคารจักดีที่สุด หรือว่าโทรศัพท์ไปตามที่ Call Center ที่มีบริการในแต่ละแบงค์ก่อนก็ได้ ทางเจ้าหน้าที่เป็นได้ให้ข้อมูลคร่าวๆ ได้เช่นกันค่ะ

ข้อแนะนำ:

1. คนที่หวังมีบ้านหรือคอนโด แต่ไม่รู้จักเริ่มทำยังไง ขอให้ตั้งต้นจากการตีราคาวงเงินกู้ของตนเองก่อนว่าธนาคารจะ ปล่อยวางกู้ให้คุณได้เท่าไหร่ คุณรอบรู้ติดต่อเจ้าพนักงานสินเชื่อแต่ละธนาคาร (แนะนำให้ต่อเนื่องกับธนาคารที่่คุณมีบัญชีเงินเดือนไม่ใช่หรือธนาคารที่บริษัทคุณมีสวัสดิการก่อน ก็เพราะว่าแบงก์พวกนี้จักเก่งเช็คข้อมูลของคุณได้ง่ายจากบัญชีของคุณ และความเป็นไปได้ในการได้รับอนุมัติก็จะมีมากกว่าธนาคารที่คุณไม่เคยเป็นลูกค้ามาก่อนเลย) เราทำเป็นเช็คหลายๆแบงก์ได้พร้อมกัน เป็นแค่ขั้นตอนของ การขอข่าวคราวจากธนาคาร ไม่ได้ทำเรื่องกู้

2. ภายหลังเข้าใจแจ่มแจ้งวงเงินที่คุณศักยกู้ได้ ก็ค่อยไปมองหาดูบ้านหรือว่าคอนโดที่อยู่ในงบประมาณของคุณ จักได้ไม่ต้องเสียเวลาไปดูบ้านเหรอคอนโดที่มันแพงๆ แล้วมารู้ที่หลังว่าคุณกู้ไม่ทะลุทะลวงเพราะว่าบ้านแพงไป

3. อย่าซื้อบ้านหรือไม่คอนโดเกินกำลังและฐานะของตนเองมากเกินไป ก็เพราะว่าถ้าคุณกู้สูงๆ แล้วค่าผ่อนต่อเดือนมันก็จะมากมายมาก อย่าลืมนึกถึงค่าตกแต่งที่จักตามมาอีกมากมาย รวมถึงเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉินที่เราต้องใช้เงิน เช่น เจ็บป่วยไม่ใช่หรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันที่ต้องการใช้เงิน ถ้าปรารถนาผ่อนแบบไม่หนักมาก ควรผ่อนแค่คร่าวๆ 30% ของเงินเดือน

4. ให้เร่ำลือกระยะปีในการผ่อนให้นานที่สุด ถ้าเก่งเระบือกแบบ 30 ปี ก็เเอิกเกริกกแบบ 30 ปีไปก่อน เวลามีเงินคุณก็ค่อยเอาไปโปะเรื่อยๆ เพราะว่าการเละบือกระยะเวลาผ่อนที่นาน จักทำให้ค่าผ่อนที่ต้องจ่ายต่อเดือนไม่มาก เช่นถ้าคุณกู้ 1,000,000 บาท เเลื่องกผ่อน 30 ปี คุณต้องจับจ่ายต่อเดือนเกือบ 6,000 บาท แต่ถ้าคุณเฟุ้งเฟื่องกผ่อนที่ 10 ปี คุณต้องจ่ายต่อเดือนเกือบ 11,000 บาท คุณเโจษกแบบ 30 ปี แล้วค่อยๆ เอาเงินไปโปะเรื่อยๆ ให้หมดภายในสิบปี ดอกเบี้ยที่เสีย ก็ไม่ต่างกันมากค่ะ อันนี้จักช่วยคุณได้ในกรณีฉุกเฉินที่คุณต้องใช้เงิน และทำให้คุณนั้น ไม่เครีดมากในการจัดการค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน


ค่าธรรมเนียมการโอน:

1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ( หัก ณ ที่จ่าย ) = ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร
2. ค่าธรรมเนียมการทำนิติกรรม ( ค่าโอน ) = 2 % จากสนนราคาประเมินของกรมหรือไม่ค่าขาย แล้วแต่อย่างใดสูงกว่า
3. ค่าจดจำนอง ( กรณีจำนองกับสถาบันการเงิน ) = 1% ของมูลค่าที่จำนอง (จำนวนที่กู้ทั้งหมด)
4. ค่าอากรแสตมป์ (ชำระอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง อากรแสตมป์ หรือธุรกิจเฉพาะ) = 0.50% ตามค่าซื้อขายแต่ ไม่ต่ำกว่าสนนราคาประเมินของกรม
5. ภาษีธุรกิจเฉพาะ ( ไม่ต้องชำระสมมติว่าถือครองเกิน 5 ปี หรือว่ามีชื่อในทะเบียนบ้านเกินหนึ่งปี) = 3.3% ของมูลค่าซื้อขายที่ไม่ต่ำกว่าค่าประเมินของกรม
ค่าธรรมเนียมการโอนอาจออกคนละครึ่งระหว่างผู้ซื้อด้วยกันผู้ขาย ใช่ไหมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกทั้งหมด อันนี้ขึ้นอยู่กับการตกลงกันแต่แรก ดังนั้นควรตกลงเรื่องค่าธรรมเนียมการโอนต่างๆ ก่อนทำข้อตกลงจะซื้อจะขาย เพราะอาจมีการโต้เถึยงเกิดขึ้นได้ในวันโอน ทางที่ดีควรรวมรายละเอียดค่าธรรมเนียมการโอนไว้ในสนธิสัญญาจักซื้อจะขายด้วยเพื่อป้องกันการโต้เถียงกันภายหลังโ

ข้อมูลจาก  (cordia.bloggang)

เทคนิค 10ข้อ ประดับห้องนอนเล็กๆกระไรให้สวยเลิศเลอ

10 เคล็ดเคล็ดลับ แปลงห้องนอนเล็กๆของคุณให้สวยหยาดเยิ้ม

ไม่ว่าห้องนอนจะอยู่ในคอนโด หรือที่บ้าน แต่หลายแห่งมักจักแบ่งห้องหรือว่าซอยห้องออกมาเล็กจนน่าอึดอัดพร้อมทั้งประสาทเสีย พอครั้นจะงอกงามต่อเติมออก ก็ไม่มีงบพอไม่ใช่หรือไม่มีพื้นที่เหละบือเท่าพอที่จะขยายได้อีก แล้ววันนี้เรามาใช้เคล็ดลับการตกแต่งให้เป็นผลประโยชน์กันนะคะ กับเทคนิคที่จักช่วยให้คุณนั้น ตกแต่งห้องนอนปริมาตรเล็กของคุณให้ดูใหญ่ขึ้น น่านอนมากขึ้น

1. สมมติคุณไม่ชอบห้องสีขาวหรือไม่อาจจะเพิ่งได้ห้องคอนโดใหม่มา แต่ไม่รู้จะใช้สีไหนดี ลองนำไอเทมสีเด่นเตะตามาตกแต่งห้องนอนดู อย่างห้องนี้ที่ใช้หมอน พร้อมด้วยผ้าคลุมเตียงที่เป็นสีส้มแดงเตะตา เข้ากับม่านจีนทำจากไม้พร้อมกับเพ้นท์สีทองจาง ๆ ทำให้ห้องดูเด่นขึ้นได้ อีกทั้งเก้าอี้ไม้สานโปร่งก็ช่วยให้ห้องดูโปร่งไปด้วยเช่นกัน

2. เปิดมรรคให้แสงลอดเข้ามาภายในห้องบ้าง ช่วยให้ห้องแจ่มแจ้งมากขึ้น แต่เพิ่มความเป็นส่วนตัวจะติดตั้งมู่ลี่แบบม้วน ใช่ไหมแบบห้อยที่ทำจากผ้าลูกไม้หรือผ้าทอมือก็ไม่เลวพางกัน 
3. แพร่พื้นที่หัวเตียงให้แปรไปเป็นชั้นวางของเสียเลย ด้วยคนที่มีข้าวของเครื่องใช้หรือไม่ก็หนังสือมาก ๆ ชี้นำว่าควรเป็นชั้นบิ๊วอินที่สูงจากพื้นถึงเพดาน จะช่วยให้ห้องดูโอ่โถงมากขึ้น ศักยติดตั้งไฟอ่านหนังสือได้ พร้อมกับทำอะไรได้สารพัดเลยเชียวแหล่ะ

 4. อย่ากลัวการใช้หน้าต่าง หน้าต่างจักเป็นตัวช่วยนำทางแสงสว่าง พร้อมทั้งความปลอดโปร่งเข้ามาในห้อง ชี้ช่องว่าควรผลักเตียงให้ชิดหน้าต่างไปเลย จะเพิ่มท้องที่ห้องให้มากขึ้นได้ และเพื่อความเป็นส่วนตัวในเวลากลางคืน คุณสมรรถเระบือกติดตั้งมู่ลี่ไว้บนหน้าต่างได้ด้วยเช่นกัน
5. ทริกแบบคลาสสิกสุด ๆ ก็คือใช้กระจกส่องช่วยนั่นเอง ทำให้ห้องหับดูกว้างขึ้นได้อีกมาก แถมกาลเวลานี้ยังมีกระจกส่องหลายเฉดสีให้คุณเละบือกตามสไตล์ของห้องหับได้ด้วยนะคะ

 6. สมมติว่าท้องถิ่นค่อนข้างคับแคบ ลองเโจษจันกใช้เฟอร์นิเจอร์สั่งกำเนิดดู อย่างห้องนี้ที่มีแคว้นอยู่ใต้หลังคา เพดานจึงเอียงเอียงอย่างที่เห็น สมมติว่าใช้เตียงธรรมดาคงจะไม่ได้แน่ จึงได้จ้างช่างมาดีไซน์ให้พอดีกับพื้นที่ แถมยังเป็นเตียงคู่เสียด้วย อีกทริกก็คือการเเลื่องกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความโปร่งใส ทำให้ไม่เกะกะสายตา ไม่ใช่หรือทำให้รกเรื้อ อย่างเก้าอี้อะคริลิกในห้องหับนี้เป็นต้นค่ะ
   
7. สมมตห้องนอนของคุณคับลึก ปานห้องนอนห้องนี้ ลองตกแต่งภายในผนังด้านในที่ลึกที่สุด ให้วิลาวัณย์โดดเด่นที่สุด ด้านเดียวไปเลย จะดึงสายตาดึงความสนใจไปที่กำแพงห้องได้ อย่างห้องนี้เลือกระฉ่อนกใช้วอลล์เปอร์สีฟ้าอ่อนพิมพ์ลายสีบรอนซ์ทองดูหรูหรา อีกทั้งผ้าคลุมเตียงยังมีความแวววาม จึงเข้ากันได้ดีด้วย

8. ทดลองทำให้ Headboard ของคุณกลายเป็นพื้นที่เหตุด้วยทำงานเสียเลย นี่เป็นตู้ที่มีสองด้าน ด้านที่หันเข้าหาเตียงจักเป็นชั้นหนังสือ เว้นที่ด้านซ้ายไว้เล็กน้อยด้วยวางโคมไฟ ที่ให้อาภาสถึงโต๊ะทำงานอีกฝั่งได้ด้วย เหมาะสำหรับห้องนอนหน้ากิ่วลึกอีกเช่นกัน
9. แต่งผนังด้วยลวดลายพร้อมทั้งสีสันที่โดดเด่นดึงดูดสายตาไปเลย ก็สวยไปอีกแบบ อย่างห้องนี้ที่เเลื่องลือกวอลล์เปเปอร์มากรุผนังลาดเอียงซึ่งเป็นห้องใต้หลังคา ให้มีลวดลายกราฟฟิก ค้ำประกันว่าถูกใจเด็กวัยรุ่นที่บ้านของคุณแน่ ๆ


10. สีขาวยังไงก็ไม่กระทำผิดแน่.. แม้จะดูน่าเบื่อ แต่อันที่ครันแล้วขึ้นอยู่กับการตกแต่งภายในมากกว่า ลองแต่งแบบห้องนี้ก็ได้ค่ะ ดูแลโทนสีขาว เทา แนวธรรมชาติเข้าไว้ อ่าแต่น้อยสไตล์มินิมัลลิสต์ แค่นี้คุณก็ได้ห้องนอนที่ทั้งอบอุ่น สว่าง พร้อมด้วยเท่เกินใครแล้วค่ะ

ขอขอบคุณภาพจาก : st.houzz.com
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : homenayoo.com

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ค่าศูนย์กลางคอนโด เก็บน้อยหรือว่ามาก ขึ้นอยู่กับอย่างไร

ค่าสาธารณะ คอนโด เก็บน้อยเกินไปก็ไม่ถูกต้อง มากเกินไปก็ไม่ได้

“ค่าส่วนกลาง” เป็นรายการจ่ายที่ยิ่งใหญ่มากของผู้ที่ซื้อคอนโดมิเนียม หรือไม่เจ้าของห้องชุดที่จำต้องช่วยกันจ่ายส่วนนี้ ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่าแรกเริ่มที่เราซื้อโครงการคอนโดใหม่มา ทางโครงการก็จะชี้แจง ไม่ก็มีเอกสารการขายกำหนดอัตราค่าส่วนกลางไว้แล้ว ว่าจักเก็บตารางเมตรละเท่าไหนอะไรอย่างไรมั้ง ซึ่งอัตราจัดเก็บส่วนนี้ อาจจะเปลี่ยนแปลงไม่ก็แก้ไขได้ แต่ต้องเป็นอยู่ในมติของที่แสดงความคิดเห็นใหญ่

ค่าสาธารณะของคอนโด นั้น ตราบเทียบราคากับบ้านจัดสรรแล้ว จักแพงกว่าอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากว่าโครงการคอนโดฯ จักมีสิ่งที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ใช้ร่วมกันมากกว่า หรือไม่มีเหตุที่ให้ต้องใช้จ่ายมากกว่า เช่น สินจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย, ค่าแรงงานพนักงานเก็บขยะ, ค่าเหนื่อยแม่บ้าน, ราคาไฟฟ้าในบริเวณที่เป็นพื้นที่ของส่วนกลาง อย่างลิฟต์, บันได, ค่าไฟที่อยู่นอกห้องชุด (ค่าไฟ, แอร์พร้อมด้วยโทรทัศน์บริเวณล็อบบี้) , ค่าเครื่องมืออุปกรณ์ทำความหมดจด อื่นๆ

โดยปกติวิสัยในวันโอนกรรมสิทธิ์ผู้ซื้อมักจะต้องชำระ “ค่าศูนย์กลางล่วงหน้า” ซึ่งทั่วไปแล้วตีเอาไว้ 1-2 ปี ส่วนอัตราเท่าไหร่นั้นก็แล้วแต่โครงการจักกำหนด นิติบุคคลอาคารชุดแต่ละแห่งจักมีมาตรการในการจัดเก็บค่าสาธารณะไม่เหมือนกัน แล้วแต่ข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุดนั้นๆ เงินจัดเก็บเพราะว่าค่าสาธารณะนี่กฎหมายกะเกณฑ์ให้สามารถนำไปเป็นค่าใช้จ่ายประเภท “บริการสาธารณะ” ได้ แต่ทั้งนี้ต้องเฉพาะในกรณีที่ผู้จัดสรรที่ดินได้เขียนพลความไว้ในแบบอย่างงานโครงการ และวิธีการจัดสรรว่าจะเรียกเก็บประโยชน์บริการสาธารณะจากผู้ซื้อที่ดินแบ่งสรร ตามอัตราที่ได้รับยินยอมจากคณะกรรมาธิการจัดสรรที่ดินที่ขีดคั่นไว้ในขั้นตอนการยื่นคำขอแบ่งสรรเท่านั้น

เว้นแต่ว่านี้ยังมีรายจ่ายที่เกิดจากการทำงาน ไม่ก็การดูแลบริหารการจัดการของโภไคศวรรย์ส่วนกลางด้วย เช่นเงินเดือนของผู้บัญชาฝ่ายนิติบุคคลอาคารชุด ประโยชน์โทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเครื่องใช้และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในสำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด รวมทั้งรายการจ่ายที่ไม่ประจำ เช่น ค่าบูรณะระบบไฟฟ้า ประปา เป็นต้น

การทำงานของเจ้าของห้องชุดคอนโด ที่ต้องล้างค่าส่วนกลางทุกเดือนส่วนมากรับรู้ กันทั่วไปแล้ว แต่ที่ยังมีคำถาม อยู่บ้างคือข้อสงสัยที่ว่าทำไมค่าส่วนกลางถึงแพงจัง ?

อัตราค่าศูนย์กลาง จักถูกใช่ไหมแพงขึ้นอยู่กับหลายเหตุหลายที่มา สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการที่มากน้อยไม่เท่ากัน จึงทำให้ค่าส่วนกลางแต่ละแผนการไม่เท่ากัน ถ้ามีสิ่งอำนวยความง่ายดายมากค่าส่วนกลางก็สูง เรียกว่าใช้มากก็ต้องจ่ายมากทำนองนั้น นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับระดับหรือไม่ระดับคอนโดด้วย เช่น โครงการไฮเอนด์หรูๆ แน่นอนค่าศูนย์กลางก็ต้องแพง ก็เพราะว่ามาตรฐานในการบริหารจัดการอาคารหรือไม่พื้นที่สาธารณะต้องสูงไปตามระดับ จำนวนยูนิตในแต่ละโครงการก็มีผลเช่นกัน โครงการที่จำนวนยูนิตน้อยค่าส่วนกลางจะสูง เพราะตัวหารเกลี่ยน้อยกว่า

เชื่อได้เลยว่า ถ้าเโจษกได้ทุกคนก็คงเลือกคอนโดฯ ที่ค่าส่วนกลางถูกกว่าอย่างแน่นอน แต่ในความแน่ๆนั้นคอนโดฯ ที่ค่าส่วนกลางต่ำๆ ก็ไม่ใช่คำตอบที่ถูกที่ควรที่สุดเสมอไป เพราะถ้าส่วนกลางมันต่ำเกินไป ก็อาจทำให้การบริหารจัดการ หรือไม่การดูแลอาคาร พร้อมด้วยพื้นที่ศูนย์กลางทำได้ไม่เต็มที่ ไม่ใช่หรือบริหารกันไปแบบตามมีตามเกิด ดังหนึ่งสายการบินโลว์คอส ที่จะทำอะไรก็ต้องประหยัดไว้ก่อน

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ก็คือ แทบจักไม่มีคอนโด ไหนที่รอบรู้เก็บค่าส่วนรวมได้ 100% เต็มโดยไม่มีการค้างจ่าย ฉะนั้นแล้วค่าส่วนกลางที่จักกำหนดอัตราจัดเก็บไว้แล้ว เอาเข้าแน่ๆก็ได้ไม่ครบหรือไม่พอก็มี แต่ถ้าสูงเกินไปก็ไม่ดีก็เพราะว่าจะเป็นต้นทุนของเจ้าของห้องชุด ยิ่งแม้เราซื้อเพื่อ ให้เสรีภาพเช่าแล้วค่าใช้จ่ายส่วนนี้มากเกินไปก็จักไปลิดรอนผล ตอบแทนให้ลดลงได้ แนวคิดที่ถูกต้องเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายส่วนกลางในกรณีที่เป็น

การซื้อคอนโดฯ เพื่อ ช่างเช่านั้น ก็คือจะจ่ายมากหรือไม่จ่ายน้อยก็ขึ้นอยู่กับค่าเช่าที่เก็บได้เป็นหลัก ถ้าเก็บค่าเช่าได้น้อย ค่าครองชีพในส่วนนี้ก็ต้องน้อยตามลงไปด้วย แต่ถ้าเก็บค่าเช่าได้มากถึงค่าส่วนกลาง  ค่าส่วนกลางจะสูงไปสักหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่ในกรณีที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง อันนี้น่าจะขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและความรอบรู้ในการจ่ายมากกว่า อยู่คอนโดแบบหรูก็ต้องยอมรับว่าต้องจ่ายแพงกว่า ถ้าไม่ประสงค์จ่ายแพงก็คงต้องควานคอนโดฯ ถูกๆ ค่าส่วนกลางต่ำๆ อยู่กันไป

การไม่ชำระค่าสาธารณะมีผลเสียมากมายต่อเจ้าของร่วมทุกคน ทางที่ดีควรสังคายนายตามกำหนดไปเถอะครับ ด้วยกันร่วมกันดัดตนจัดการหรือว่าตรวจสอบบัญชีจักเป็นการดีกว่า การเก็บค่าศูนย์กลางของนิติบุคคลเก็บไปก็เพื่อประโยชน์ในการดูแลใช้จ่าย แก้ไขปรับปรุงทรัพย์ศูนย์กลางให้ทำได้ใช้งานได้นานๆ พร้อมกับทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในที่อยู่อาศัยของเราเอง
ขอขอบคุณ : cmc.co.th

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

คิดค้นบรรยากาศสุดพิเศษเสมอเหมือนดินแดนในนึกคิด ด้วยเฉดสี

ประกอบบรรยากาศสุดยอดเยี่ยมแบบดินที่ในฝัน ด้วยเฉดสี

จักมีอะไรที่ทำให้คนเรานั้น มีความสำราญมากไปกว่าการได้อยู่ติดกับคนที่คุณรัก ท่ามกลางสถานที่ที่อันแสนจะอบอุ่น พร้อมกับโรแมนติก ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือไม่ก็คอนโดของคุณ พร้อมทั้งถ้าสมมตสถานที่แห่งนั้นเป็นดินบริเวณภายในฝันที่คุณหลงรักกับต้องประสงค์ใช้ชีวิตแบบนี้ในทุกๆวันด้วยแล้ว ก็คงจักเหลือคณานับไปด้วยความรู้สึกอันแสนพิเศษในทุกโมงยาม
ในขณะที่เรากำลังนึกภาพนึกถึงบรรยากาศที่กรุ่นไปด้วยโลกแห่งความโรแมนติก แต่ช่วงเวลาของการใช้ชีวิตมันกลับไม่เอื้ออำนวยให้เรารอบรู้เดินทางไปยังสถานที่แห่งต่างๆ ได้มากมายขนาดนั้น คงจะดีกว่า ถ้าสมมตเราเชี่ยวชาญเก็บเอาบรรยากาศที่แสนดีเยี่ยมเหล่านั้นมาแต่งแต้มให้ทุกๆ วันภายในบ้านให้กลายเป็นแว่นแคว้นในฝันเหนือคิดฝัน

เพราะว่าบรรยากาศคือองค์ประกอบหนึ่งของชีวิตที่อาจช่วยคิดค้น ให้ทุกวันเปี่ยมไปด้วยความเบิกบาน ดั่งเช่นบรรยากาศแห่งความโรแมนติกในท่ามมัธยมทุ่งลาเวนเดอร์ ของเมืองชานเมืองของประเทศฝรั่งเศส ที่รุ่มรวยไปด้วยสีสันของธรรมชาติอันต้องตาต้องใจงดงาม ท่ามกลางโทนสีม่วงแสนหวาน พร้อมด้วยกลิ่นหอมอันแสนเโยกย้ายวนที่ถูกแต่งแต้มไว้อย่างละเมียดละไมในทุกอณู จึงพร้อมรังสรรค์ทุกคืนวันให้อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุนทรีย์ที่เกินบรรยาย กับคงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว แม้สีสันแห่งธรรมชาติจากทุ่งลาเวนเดอร์อันแสนงดงามเหล่านั้น จะทำเป็นจักนฤมิตพื้นที่ภายในบ้านให้เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งห้วงความโรแมนติกในทุกช่วงเวลา เพราะว่าเฉพาะห้องนั่งเล่น ซึ่งนอกจากจะเป็นพื้นที่เนื่องด้วยไว้พักผ่อนหย่อนใจเอนสรีระแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งที่แห่งความอบอุ่นที่พร้อมให้สมาชิกทุกคนภายในบ้าน เชี่ยวชาญใช้เวลาเพื่อพบปะ สังสรรค์ พร้อมทั้งพูดคุยกันได้อย่างมีความสุขในทุกวัน

เพราะคนรักบ้านที่ต้องการสร้างสรรค์บรรยากาศอันแสนโรแมนติก เหมือนยกทุ่งลาเวนเดอร์ของฝรั่งเศสมาไว้ในห้องนั่งเล่นของคุณก็สมรรถทำได้ไม่ยาก เหมือนขึ้นต้นต้นด้วยการถ่ายทอดอารมณ์ของสีสันจากธรรมชาติด้วยโทนสีออกม่วงพาสเทลลงบนผนัง พร้อมประสานความโรแมนติกให้มากยิ่งขึ้นด้วยการตกแต่งในสไตล์ฝรั่งเศสที่ให้บรรยากาศอบอุ่นคลาสสิก เน้นย้ำงานเฟอร์นิเจอร์จำพวก Soft Furnishing อย่างโซฟาที่เป็นผ้าบุที่อ่อนนุ่ม ผ้าม่านสีหวาน หรือหมอนอิงลายลูกไม้ ปางเท่านี้ก็พร้อมแต่งเติมสีสันแห่งความความไพเราะ ให้กับห้องนั่งเล่นราวกับนั่งพักผ่อนนอนม้วนต้วนอยู่ท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์อันงดงาม
หรือถ้าหากใครที่ตรึงใจบรรยากาศแห่งชีวิตชีวา ก็สามารถดื่มด่ำไปด้วยความเร้าร้อนในจังหวะเพลงฟลามิงโก้ของประเทศสเปนได้ง่ายๆ ด้วยโทนเฉดสีแดงสดที่สื่อถึงสีสันแห่งชีวิตชีวา อาจไม่ต้องตกแต่งด้วยข้าวของที่มีเส้นสายไม่ก็เป็นรูปทรงซับซ้อน เหมือนแต่งเติมความสดใสด้วยแจกัน โคมไฟ หมอนอิง เหรอทาสีฝาผนังด้วยโทนสีแดงสดและโทนสีอ่อนที่ได้แรงดลใจมาจากทรายเนื้อละเอียด ก็พร้อมแต่งตั้งให้บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่นของคุณดูอบอุ่นและผ่อนคลาย เสมือนได้อยู่ท่ามกลางดินแดนแห่งเสียงเพลงฟลามิงโก้ในประเทสสเปนทุกๆ วัน

ถ้าปรารถนาสัมผัสถึงพลังแห่งความแจ่มใสอันแสนรื่นรมย์ราวกับอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวงามสดใสที่ไกลสุดสายตาของประเทศนิวซีแลนด์ ก็อาจเนรมิตห้องนั่งเล่นให้สดชื่นไปด้วยความเขียวชอุ่มได้ไม่ยาก แทบตกแต่งภายในห้องนั่งเล่นของคุณด้วยการใช้ชุดพาเลทท์โทนสีเขียว ที่เด้งถึงความมีชีวิตชีวาลงบนผนังห้อง แล้วใช้อาร์มแชร์ผ้าบุสีเขียวจัดวางเป็นเฟอร์นิเจอร์หลัก พร้อมด้วยอาจเเล่าลือกเฟอร์นิเจอร์พวกงานไม้เข้ามาเพิ่มตกแต่งร่วมด้วย ก็ยิ่งช่วยค้ำชูให้บรรยากาศภายในห้องเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งธรรมชาติที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นของประเทศนิวซีแลนด์ได้มากยิ่งขึ้น

ไม่ว่าช่วงเพลาไหนก็อาจจะเนรมิตบรรยากาศภายในบ้านให้พิเศษสุดดุจเขตในฝัน ได้ด้วย ดูลักซ์ อินสไปร์ ชุดพาเลทท์สี ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ‘คัลเลอร์ ออฟ เดอะ เวิร์ล’ (Colours of the World) ซึ่งได้รับความบันดาลใจจากสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 9 ประเทศที่มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นเฉพาะตัว จนเกิดเป็นชุดพาเลทท์สีทั้ง 9 โทนสีที่สวยงาม โดยในแต่ละโทนสีประกอบไปด้วยสีต่างๆ มากถึง 6 เฉดสี จึงผสมผสานพร้อมทั้งถ่ายทอดออกมาเป็น 54 เฉดสีใหม่ ที่พร้อมสร้างสรรค์ทุกบรรยากาศของบ้านให้เต็มไปด้วยสีสันแห่งความงดงามดุจดินแคว้นในฝันได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นโทนสีส้มอมน้ำตาลอันอบอุ่นจากประเทศออสเตรเลีย สีเหโจษจันงประกายทองที่มีชีวิตชีวาจากประเทศไทย ชุดเฉดสีเอิร์ธโทนอันน่าเกรงขามจากประเทศแอฟริกา ด้วยกันชุดสีอื่นๆ อีกมากมาย ที่มีมาให้เเล่าลือกจัดทำเฉดสีสวยได้ดุจดั่งใจต้องการ เพราะว่าเป็นได้จำลองการออกแบบโทนสีสวยได้ด้วยแอปพลิเคชั่น Dulux Visualizer (ดูลักซ์ วิชวลไลเซอร์) เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากดูลักซ์ ที่พร้อมช่วยให้คนรักบ้านอาจจักจำลองการออกแบบสีห้องได้เสมือนแน่นอนแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นได้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ฟรีเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือพร้อมกับแท็บเล็ตทั้งระบบปฏิบัติการ iOS พร้อมทั้ง ระบบ Android

มากไปกว่านั้น ดูลักซ์ อินสไปร์ สีน้ำอะครีลิคเกี่ยวกับทาภายใน ยังมาพร้อมคุณสมบัติดึงเกาะผนังได้ดีเยี่ยม ไม่หลุดร่อนง่าย อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยสุดยอดเทคโนโลยี โครมาไบรท์ (Chroma Brite) ช่วยยืดอายุของสีให้สวยคงทนได้ยาวนานเพราะไม่ทำให้ซีดจางไว จึงพร้อมปกป้องสีบนผนังของบ้านให้สวยสดใสได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมยังง่ายต่อการทำความสะอาด เพราะว่าเก่งเช็ดล้างทำความสะอาดได้ พร้อมกับไม่ผสมสารตะกั่วกับปรอท มากไปกว่าคุณสมบัติสุดพิเศษแล้ว สีทาภายใน ดูลักซ์ อินสไปร์ ยังพร้อมเนรมิตบรรยากาศภายในบ้านให้เต็มไปด้วยสีสันเสมือนดินแดนในฝันได้ในทุกช่วงเวลา   ก็เพราะว่าสถานที่มักส่งผลต่ออารมณ์พร้อมกับความรู้สึก ทั้งช่วยสร้างชีวิตชีวา เพิ่มพลังในการใช้ชีวิต หรือไม่มอบความคลายที่แสนสบายในทุกๆ ย่างก้าวที่เดินทาง แต่คงจักดีกว่าต่างว่าเราสมรรถเก็บรายละเอียดอันงดงามจากสถานที่เหล่านั้นพร้อมทั้งเป็นได้หยิบมาผสมเป็นการตกแต่งภายในบ้านด้วยโทนสีสวยที่มีเสน่ห์  ไม่ว่าจะเป็นวันที่แสนเหนื่อยล้าไม่ก็วันที่อยากใช้ชีวิตอย่างเนิบช้า ณ สถานที่ใดสักแห่ง พื้นที่ภายในบ้านก็เป็นได้กลายเป็นดินแดนในฝันได้ตามใจปรารถนา

สนใจโครงการคอนโดใหม่ ทำเป็นติดตามได้ที่นี้



วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ห้องน้ำงามยิ่งชนะเลิศด้วย 8 แผนการเก็บของในห้องน้ำ ปิดอย่างไรให้มีสไตล์

8 กลยุทธ์เก็บของในห้องน้ำขนาดเล็ก เพื่อห้องพิไลชนะเลิศ

ในวันที่รูปแบบห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นคอนโด หรือว่าบ้านของคุณ ได้แลกเปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่เช่นแค่ประโยชน์จากใช้สอยที่ต้องคำนึงถึง แต่ความเพราพริ้งของมันก็ควรไม่เป็นสองรองใคร งั้นเรามาดูไอเดียการจัดเก็บของในห้องน้ำที่อาจจักช่วยให้ห้องน้ำของคุณ สวย สะอาดกับอยู่เสมอ
วันนี้เรามีเทคนิคต่างๆ ใหม่ๆ ในการจัดชั้นวางของในห้องน้ำ มาฝากกันครับ นอกจากจักเพิ่มประโยชน์การใช้สอยได้แล้ว ยังช่วยให้ห้องน้ำสวยโดดเด่นไม่ซ้ำกับใครอีกด้วย มาโหมโรงกันเลยดีกว่าครับ

ชั้นวางของใต้อ่างล้างมือ ไม่จำเป็นจะต้องซ่อนเร้นซ่อนหลังบานพับตู้หรือว่าประตูอีกถัดจากนั้น คุณเป็นได้โชว์ที่เก็บของสุดเก๋ ด้วยตะกร้าเก็บของนาเนกขนาด เพื่อเป็นได้จัดของใช้หลายพันธุ์ เพื่อความง่ายต่อการหนีบนำมาใช้สอย ด้วยกันยังเพิ่มความเป็นวินัยภายในห้องน้ำได้อีกด้วย ไม่ใช่เพียงแค่ตู้เก็บของแบบธรรมดาในห้องน้ำ การเพิ่มสัดส่วนตู้รูปร่างสูงจากอ่างถึงฝ้าเพดาน อาจเพิ่มบริเวณเก็บของได้มาก รวมไปถึงสร้างความวิปลาสใหม่แบบไม่ซ้ำใครได้อีกด้วย

Hidden Storage  หนทางของการขจิตห้องน้ำนี้ออกจะเหมาะกับสาวๆแนวหวานอยู่ซักหน่อย เพราะว่าการนำเอาผ้าขนหนู เข้ามาใช้งาน ทำให้ห้องน้ำมีความอ่อนหวานน่ารักขึ้นเป็นกองเลย  ทางเเอิกเกริกกหนึ่งที่จักอาจจักสร้างพื้นที่ ให้ดูมีความนุ่มนวล พริ้วไหว แต่ยังอำพรางความน่ารักอยู่ สมรรถทำได้โดยติดผ้าจีบระบายให้กับอ่างล้างหน้าตัวโปรด ใช่ไหมใช้ผ้าเช็ดตัวโทนสีสดใสมาพาดเอาไว้ที่ราว รวมทั้งเรายังเชี่ยวชาญใช้ประโยชน์เพราะใช้บังสิ่งของที่อยู่ด้านใต้ได้อีกด้วย



Matching Cabinets วิธีนี้จักเน้นการใช้กำไรใช้สอยให้ห้องส้วมอย่างมาก เป็นการเน้นให้จุของได้เยอะแยะๆ ในขณะเดียวกันก็ตะแหง่วๆสร้างความพันลึกพันลือตาให้กับการตกแต่งในห้องน้ำ มีคุณสมบัติเฉพาะ มีความกลมกลืน รวมทั้งเชี่ยวชาญสร้างความโดดเด่นไปอีกแบบ

Floating Shelf  ถ้าต่างว่าว่าห้องน้ำของคุณมีเขตแดนค่อนข้างมากและมีฉากที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ใดๆ การเพิ่มผลประโยชน์ให้กับผนังที่ว่างเปล่า เพราะการติดชั้นวางของลอยตัวบางเบาไว้ในขอบขัณฑสีมาที่ไม่ค่อยได้เข้าไปใช้งาน เช่น เหนือชักโครก เท่านี้ก็เพิ่ม space พิเศษด้วยกัน function ให้กับผนังของห้องน้ำได้

Surrounding Shelf  เพราะว่าในดินแดนห้องน้ำที่แคบกับมีบริเวณน้อย ชั้นวางของฝ่ายบางเบา ตั้งตามขอบกำแพงล้อมรอบอ่างล้างมือเป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บของ เชี่ยวชาญวางขวดสบู่ รวมถึงครีมต่างๆไว้ด้านบน ในขณะที่ด้านล่างยังอาจจักออกแบบไว้แขวนผ้า เพิ่มความพิเศษด้วยการใช้อ่างล้างมือขนาดใหญ่ที่ทำให้สามารถใช้งานได้พร้อมกันหลายคน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจนะคะ
เทคนิคเหตุด้วยการตกแต่งชั้นวางของ เพราะว่าการสร้างความน่าแคร์ให้กับเคาน์เตอร์เพราะนำตะกร้าเก๋ๆมาไว้สำหรับใส่ของ อาจจะเป็นขวดโหลสวยๆ กับแจกันผกา วางคู่กันกับรูปภาพสวยๆก็เพิ่มความน่าดึงดูดได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

Dual Storage จากอ่างล้างหน้าคู่ที่ไม่มีความพิเศษใดๆ เราอาจปรับกลับกันให้กลายเป็นมาเป็นชั้นเก็บของคู่ เพราะว่าติดชั้นวางของหินอ่อนแปะด้านใต้เพื่อให้เข้ากับ top counter หรือว่าอาจใช้วัสดุอื่นๆก็ได้ ทำให้การออกแบบห้องน้ำดูน่าสนใจมากขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลดีจาก : forfur.com
สนใจหาข้อมูล โครงการคอนโดใหม่ ติดตามได้ที่นี้ครับ